หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมวิชาการในวันแรก ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ต่างใส่คอนเวิร์สแยกย้ายทางใครทางมัน บางคณะก็ไปกันตั้งแต่หลังมื้อกลางวันเพราะต้องเดินทางไปอีกไกลโข คงเหลือทีมเครือข่ายอยู่ที่จะร่วมกิจกรรมกันต่ออีกไม่กี่คน มี ปุ๊ รพ.หนองวัวซอ ,อิ๊ด รพ.เอราวัณ และนง รพ.หัวตะพาน ซึ่งมีภาระกิจประชุมวิชาการร่วมกันต่อในวันที่ 2
อย่างที่บอกครับว่าการประชุมครั้งนี้ตั้งใจจัดเป็นพิเศษจริงๆ โดยเลือกวันประชุมเพื่อให้สมาชิกที่สนใจเข้าร่วมอบรมถ่ายภาพกับวิทยากรระดับประเทศ และเดินทางขึ้นภูลมโลกันต่อ แต่ก็คงแล้วแต่คนชอบนะครับเพราะเรื่องทางศิลป์แบบนี้อาจจะไม่โดนใจนักคอมกันเท่าไหร่นัก
19 มกราคม 2556
พวกเราเดินทางออกจากที่พัก มุ่งไปที่รังเย็นรีสอร์ท ซึ่งเป็นสถานที่ัจัดอบรมในครั้งนี้ วิทยากรที่มาสอนในวันนี้ในวงการเขาก็เรียกระดับเทพละครับ ถ้าใครยังไม่รู้จักนายตากล้อง แนะนำให้ไปดูรายละเอียดกับวิทยากรท่านนี้ดู www.taklong.com/ แล้วจะรู้ว่าไม่ธรรมดาทีเดียว ส่วนผมก็เลยได้โอกาสไปรือฟื้นความรู้และเทคนิคใหม่ๆกับเขา แถมลงทุนให้ต๊อบน้องที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ เข้าไปร่วมอบรมด้วย ซึ่งผมก็คาดหวังว่าจะทำให้น้องมีทักษะการถ่ายรูปที่ดีขึ้นแบบโปร ซึ่งเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งให้กับทีมงาน
ต๊อบ ช่างเทคนิค ศูนย์คอมพิวเตอร์ รพร.ด่านซ้าย
เสร็จสิ้นจากการอบรมถ่ายภาพแต่งานพวกเรายังไม่จบครับ มีภาระกิจที่ต้องเดินทางกันไปต่อ หลังจากจัดเตรียมสัมภาระและนัดหมายกับสมาชิกคนอื่นๆ ที่มาร่วมอบรมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สมิง รพ.จิตเวช ,เอ๋ใหญ่ รพ.เลย และอาร์มรออยู่ที่บ้าน เพื่อเดินทางไปภูลมโล เรียบร้อยแล้ว ต่างก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทาง คือ ที่ทำการชุมชนของ อบต.กกสะทอน
ว่ากันจริงๆ ระยะทางก็ไม่ไกลมากนักจากอำเภอด่านซ้ายไปยังที่ทำการฯ แต่ด้วยเส้นทางที่ไม่ชำนาญสำหรับคนขับทำให้กว่าที่ทีมพวกเราจะไปถึงก็เกือบ 5 โมงเย็น ตรงจุดนี้จะคล้ายๆกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวซึ่งจะมีการลงทะเบียน ชำระค่าบริการรถนำเที่ยว สนนราคา 1,500 บาท/10 คน และมีเต๊นท์ ผ้าห่ม ที่นอนบริการ มีที่จอดรถสะดวกสบาย มีการจัดเวรยามเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยให้พวกเราไปเที่ยวได้อย่างสบายใจ สำหรับรถบริการที่จะพาขึ้นภูลมโล เป็นกลุ่มชาวบ้านที่เขารวมตัวกันเป็นชมรมครับ การบริการต่างๆ ก็เพิ่งเริ่มกันไม่นานนัก แต่ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี โดยรถที่พาขึ้นจะเป็นรถกระบะ 4WD ที่มีที่นั่งพิเศษ สำหรับคนขับที่พาขึ้นไปเขาจะเตรียมอุปกรณ์ทำอาหาร เตา ถ่าน ไว้ให้พร้อมครับ พวกเราแค่เตรียมวัตถุดิบ อาหาร น้ำดื่มไปเท่านั้นเอง และจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปนอนอยู่เป็นเพื่อนด้วยอีก 1 คน
เส้นทางไปภูลมโล ถ้าขึ้นจากทางฝั่งตำบลกกสะทอนก็ไม่ถึงกับลำบากครับ หากจะเอารถไปเองแต่บางช่วงดูแล้วสงสารรถ โดยเฉพาะถ้าไม่ได้เป็น 4WD ผมว่าใช้บริการของชาวบ้านเขาชัวร์กว่า
จากจุดที่ทำการไปถึงที่พัก ระยะทาง 20กว่ากิโล(แม้ว)หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่รู้สึกว่ามันไกลมากทีเดียว สำหรับขาไป ทำให้กว่าจะไปถึงจุดกางเต๊นท์ก็เล่นเอามืด แต่ทางรถบริการเขาเตรียมมาพร้อมครับ มีทั้งไฟส่องสว่าง ช่วยกางเต็นท์ให้เสร็จสรรพ และก่อไฟหุงข้าวให้พร้อม โดยใช้เวลาไม่นานทุกอย่างก็พร้อมสำหรับพักผ่อนในค่ำคืนนี้
ด้านทิศใต้ของภูลมโล มองเห็นแสงไฟสว่างบรรยากาศดูต่างจากที่พวกเราพักอยู่มาก เพราะที่นี่้มีเพียงแสงไฟจากตะเกียง และกองไฟ อากาศเย็น อุณหภูมิน่าจะไม่เกิน 10 องศา หลังจากที่อิ่มหนำสำราญก็เลยนึกสนุกๆเลยชักชวนกันลองถ่ายภาพตอนกลางคืนดูบ้าง โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่ไม่มีแสงไฟรบกวนอย่างนี้ โดยเฉพาะยามที่แหงนมองดูเห็นดวงดาวส่องแสงพราวระยิบระยับอยู่เต็มท้องฟ้า แล้วจะช้าอยู่ไย รีบคว้ากล้องมาลองของกันทันที
ตกดึกอากาศเย็นมาก ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับคนผมน้อยๆ ผมเลยขอตัวและหัวมุดเข้าเต้นท์ก่อนใครเพื่อน ตอนนี้มีอะไรที่พอจะห่อหุ้มให้หายหนาวได้ก็จัดใส่ไว้เต็มที่ครับ เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีตอนตีสี่กว่าๆ เพราะน้ำค้างลงหนัก หนาวจนเข้ากระดูกเลยต้องลุกมาผิงไฟ..
ทางด้านทิศตะวันออกเริ่มมองเห็นแสงรำไร ซึ่งเป็นจุดที่จะได้ทักทายกับพระอาทิตย์ในเช้าวันใหม่ทำให้พวกเรามันส์มือและสนุกกับการถ่ายภาพจนแทบจะลืมความหนาวเย็นกันไปเลยทีเดียว
บรรยากาศที่พักในยามเช้า
หลายคนที่อยากมาเที่ยวแต่อาจจะกังวลใจเรื่องความไม่สะดวกสบายของน้ำใช้และห้องน้ำ โดยเฉพาะสุภาพสตรี ก่อนมายอมครับว่าเป็นปัญหาที่ค่อนข้างกังวลพอสมควรเพราะเท่าที่สอบถามจากจากทางศูนย์บริการได้ข้อมูลไม่ชัดทำให้นึกภาพไม่ออก แต่พอมาถึงสถานที่จริงๆ ห้องน้ำก็ไม่ถือว่าลำบากมากนัก ซึ่งเขาจัดให้อยู่ห่างจากที่พักประมาณ 100เมตร ถ้าปวดหนักเบาในช่วงกลางคืนคงต้องมีไฟฉายและหาคนไปเป็นเพื่อน ในส่วนของน้ำใช้มีน้ำสะอาดที่ต่อท่อมาให้บริการตลอดเวลา รับประกันความใส สะอาด และเย็นมากกกก...........
เสร็จสิ้นภาระกิจส่วนตัวและจัดการมื้อเช้ากันเรียบร้อย พร้อมทั้งเก็บเต๊นท์และสัมภาระเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปต่อ จุดนี้จะมีป้ายภูลมโลให้ถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระทึกเก็บไว้ว่าครั้งหนึ่งเคยได้มาเยือน ณ ที่แห่งนี้
เป้าหมายของวันนี้ คือการเดินทางไปขึ้นยอดภูลมโล ซึ่งเป็นจุดสูงสุดที่ต้องเดินเท้าขึ้นไปจากจุดจอดรถอีกประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ระหว่างทางไปยังมีจุดชมวิวสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปกันเป็นระยะๆ และถึงแม้ว่าวัยจะไม่ให้แต่ใจรัก ขอชักภาพกระโดดเย้ยฟ้ากะเขาดูบ้าง สนุกจุงเบย..
ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ถ้าเป็นทางราบคงใช้เวลาไม่นาน แต่สำหรับการเดินขึ้นภูเขาที่ต้องแบกเอาน้ำหนักว่าหลายกิโลขึ้นไปด้วย ทำเอาสังขารของพวกเราหลายคนทำงานหนักต้องหยุดพักเป็นระยะๆ ต่างกับเด็กๆที่วิ่งขึ้นไปอย่างไม่รู้จักเหนื่อย จุดสูงสุดของยอดภูลมโลมีหน้าผาหินที่ยื่นออกไปเป็นจุดถ่ายรูปที่ทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนได้ง่ายๆ โดยเฉพาะตอนที่ต้องออกไปยืนทำเท่ห์เป็นนายแบบถ่ายรูป ทำเอาใจหวิวๆ อย่าบอกใคร
เพื่อความปลอดภัยพวกเราส่งอิ๊ดไปทดสอบก่อนว่าก้อนหินจะสามารถรับน้ำหนักได้หรือไม่
ภาพที่ระลึกของสมาชิกเครือข่าย ว่าครั้งหนึ่งเราเคยได้มาที่ภูลมโล
หลังจากที่กลิ้งลงเขากันลงมาเรียบร้อย จุดหมายสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ คือการไปชมทุ่งดอกซากุระเมืองไทย ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวในครั้งนี้ แต่น่าเสียดายครับที่ปีนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยทำให้ดอกซากุระยังบานไม่ค่อยเต็มที่ แต่ก็มีให้ดูอยู่พอสมควร ซึ่งคาดว่าราวๆ ต้นเดือนกุมภาพันธุ์ ในช่วงนั้นดอกซากุระคงจะแบ่งบานเต็มที่..
สำหรับใครที่ไม่ได้มาเที่ยวด้วยกันในทริปนี้ ก็ไม่ต้องเสียใจนะครับ พวกเราเที่ยวเผื่อทุกท่านกันเรียบร้อย และในการประชุมครั้งต่อไปถ้าอยากเที่ยวเมืองไทยสไตล์คนไอที ต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมนะครับเพราะโอกาสดีๆ แบบนี้มีไม่บ่อย
เห็นแล้วอิจฉา...กับกิจกรรมดี ๆ ครับ
ตอบลบอยากได้ด้วย จังเลย
ตอบลบฝาก Blog ไว้เป็นเครือข่ายกันน่ะครับ
http://ict-chakkarat.blogspot.com/
เครือข่ายบริการสุขภาพ อำเภอจักราช นครราชสีมา