ผ่าทางตัน..

พี่สมัครโทรศัพท์พูดคุยปรึกษากับผมเรื่องโปรแกรม Inventory ที่มีปัญหาคาราคาซังมาหลายเดือน ปัญหาเกิดจากการปรับโครงสร้าง ในเวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงราคา...ที่เอื้อมไม่ถึง  อาร์มเคยติดต่อขอใบเสนอราคาในการอัพเดตเวอร์ชั่นใหม่ เพราะของเดิมทางโรงพยาบาลก็ซื้อลิขสิทธิ์การใช้งานถูกต้อง แต่ในเวอร์ชั่นใหม่ ที่มีการพัฒนาโดยทีมงานชุดใหม่ไม่ครอบคลุมตัวโปรแกรมเดิม และต้องติดตั้งฝึกอบรมโดยทีมของบริษัทเท่านั้น สนนราคาค่าใช้จ่ายประมาณ 100,000 บาท

ข้อมูลที่ลงกันไปหลายเดือน ยังประมวลผลรายงานไม่ได้ตามความต้องการ  แม้ว่าจะลองพยายามกันแล้วหลายวิธี แต่ก็ยังคงติดปัญหาในสิ่งที่เราไม่รู้ ทำให้พวกเราไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะถ้าจะตัดสินใจซื้อ ก็ใช่ว่าจะใช้งานได้ดีเหมือนที่คาดหวังไว้หรือเปล่า บอกตรงๆว่าผมไม่มั่นใจ.. เพราะที่ผ่านมาทีมที่เคยมา implement inventory ให้ก็ไม่ได้ทำอะไรให้มากนัก ความเข้าใจในระบบงานพัสดุของทางราชการก็น้อย ถามไปตอบก็ไม่ค่อยได้ แล้วพออัพเวอร์ชั่นใหม่ไม่ครอบคลุมถึงเวอร์ชั่นเก่า ขอราคาที่ทำเองโดยทีมของโรงพยาบาลก็ไม่ได้ต้อง จะเป็นทีมของบริษัทเท่านั้น.. และที่สำคัญค่าใช้จ่ายราคา 1 แสนบาทในขณะโรงพยาบาลยังแบกภาระหนี้สินกันอยู่เป็นจำนวนกว่าสิบล้านบาท  ทำให้ผมและทีมงานไม่มีทางเลือก

อาร์มเสนอผมว่า..เราพัฒนาขึ้นใหม่เลยดีกว่า!

ซึ่งพี่สมัคร และผมเห็นพ้องต้องกันว่า "งั้น..คงต้องลองดู"  

โดยโปรแกรมนี้ทางทีมจะพัฒนาต่อยอดใน DsHOS Service  และยังคงอยู่บนพื้นฐานของแนวคิดที่ว่า

"ความรู้เป็นสมบัติของคนทั้งโลก.." โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐอย่างโรงพยาบาลที่ทำงานบริการประชาชน โดยไม่ได้หวังผลกำไร ผมเชื่อว่าทุกโรงพยาบาลที่แบกภาระงานดูแลสุขภาพของคนไทยอย่างหนักทุกวันนี้ อยากได้เทคโนโลยีที่ดี อยากได้ softwareที่ดี แต่ก็ไม่ควรมีค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะด้าน softwareในราคาที่สูงเกินไป 

Inventory ใน DsHOSxP Service ในเวอร์ชั่นเดือน 4 ที่จะถึงนี้..

อาจจะยังไม่ใช่ Software ที่ดีที่สุดในตอนนี้ 

แต่ผมคิดว่ามันจะมีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น..

มีคนบอกผมว่า..

เวลาที่เรารักใคร..เราก็อยากทำ อยากจะมอบสิ่งที่ดีๆให้คนที่เรารัก
ความรัก..ไม่ควรมีเงื่อนไขฉันใด..
Software ที่พัฒนาด้วยความรัก..ความปราถนาดี อยากให้ทุกโรงพยาบาลมีระบบสารสนเทศที่ดีไว้ใช้
ดังนั้นมันจะเป็น Software ที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ฟรีๆ โดย " ไม่มีเงื่อนไข " เช่นกัน