ผมนัดหมายกับเจษว่า ล้อจะเริ่มหมุนออกจาก รพร.ด่านซ้ายเวลา 15.00 น. แต่จนแล้วจนรอดกว่าจะหลุดจากเก้าอี้ที่ทำงานได้ก็ปาเข้าไปเกือบห้าโมงเย็น จะว่าไปปัญหา. เริ่มมีให้เห็นแววกันตั้งแต่ช่วงเช้าแล้วละครับ เพราะผมเพิ่งบอกกับตั้มว่า ในช่วงที่ผมกับอาร์มไม่อยู่ตั้มต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของศูนย์คอม ซึ่งน้องก็รับปากว่าจะดูแลให้อย่างดี ไม่ต้องเป็นห่วงรวมถึงการอยู่เวรช่วงเสาร์-อาทิตย์ด้วย
ประมาณ 11 โมง ตั้มร้องไห้โหเข้ามาหาผมที่ห้องพร้อมข่าวร้ายว่า "แม่" เสียชีวิต อยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน ทำให้ตั้มต้องขอลากิจด่วนเพื่อไปรับศพแม่ ผมได้แต่ปลอบใจและให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง
ปกติผมกับอาร์มไม่ค่อยไปไหนด้วยกันบ่อยนัก ถ้าผมไปประชุมฯ อาร์มก็จะต้องอยู่ในพื้นที่ หรือถ้าอาร์มมีประชุมต้องเดินทางไป ผมก็จะอยู่เฝ้าดูแลระบบให้ รวมถึงในช่วงนอกเวลาราชการที่ผมค่อนข้างจะอยู่ใกล้กว่าเพราะตั้มบ้านอยู่โป่งชี ส่วนอาร์มก็เดินทางไปพักที่บ้านของภรรยาบ่อยๆ ถ้าไม่ได้ไปไหนผมก็จะรับอาสาเป็น call center แก้ปัญหาให้เป็นคนแรก..
หลังจากเคลียงานเสร็จเรียบร้อย ผม อาร์ม และเจษ จึงเดินทางออกจากด่านซ้าย โดยมีเป้าหมายแรกคือไปรับสมิง adminรพ.จิตเวชเลยฯ ที่จะร่วมเดินทางไปด้วยกัน ระหว่างทางมีฝนตกปรอยตั้งแต่อำเภอด่านซ้ายไปจนถึงจังหวัดอุดรไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเดินทางมากนัก พวกเราจึงตัดสินใจพักรถหลังจากที่เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนเส้นที่จะเดินทางไปยังจังหวัดสกลนคร ด้วยการพักกินร้านอาหารริมทาง.. และดูเหมือนว่าหนทางที่มืดครึ้มอยู่เบื้องหน้าเป็นสัญญานเตือนว่าต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง
พวกเราเดินทางถึง อำเภอวานรนิวาสประมาณ 4ทุ่ม โดยนัดแนะเจอจ๋อง ที่หน้าโรงพยาบาล ก่อนจะขับรถตามกันไปเข้าที่พักซึ่งอยู่ห่างจากทางโรงพยาบาลไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร
ตามประวัติของเมืองวานรนิวาส เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนชื่อเมืองสกลทวาปีของชาวย้อเป็น "เมืองสกลนคร" เมื่อปี พ.ศ. 2381 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกบ้านกุดลิงของชาวโย้ยให้เป็นเมืองน้องของเมืองสกลนคร โดยให้มีชื่อคล้องจองกันว่า เมืองวานรนิวาส ซึ่งคนส่วนใหญ๋มักเข้าใจผิดว่าเป็นเมืองที่มีลิง เพราะมีคำว่าวานร แต่จ๋องได้อธิบายว่า มาจากชื่อเดิมคือบ้านกุดลิง โดยคำว่า "กุด" หมายถึงลำน้ำที่ไหลไม่หยุด ส่วน "ลิง" หมายถึงต้นหูลิง มิใช่มีลิงอยู่มาก
เดอะ จิมมี่ รีสอร์ท เป็นที่พักตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 30ไร่ ซึ่งเจ้าของเป็นเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยแห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร และเพิ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ประมาณต้นปี 2555 ที่ผ่านมา
บรรยากาศบริเวณ ที่พักค่อนข้างสบายๆ ภายใต้ร่มเงาของธรรมชาติ ค่อนข้างเงียบสงบดีครับ มองผ่านไปในความมืดเห็นแสงหิ่งห้อยระยิบระยับ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดว่าคงจะมีแหล่งน้ำ และสิ่งแวดล้อมที่ดีอยู่บริเวณนี้
ปุ๊ หนองวัวซอ,อู๋ อิ๊ด จาก รพ.เอรวัณ ,นงจาก รพ.หัวตะพาน และน้องใหม่จาก รพ.ป่าบอน น้องสุที่บินมาไกล ซึ่งได้เดินทางมาถึงก่อนหน้าแล้ว ออกมาต้อนรับ เลยถือโอกาสนั่งพูดคุยกันอยู่ข้างริมสระบัว จ๋องเองก็ยังเข้าบ้านไม่ได้เพราะแม่บ้านจะขึ้นเวรดึก คงต้องรอเวลาให้ถึงห้าทุ่มกว่าๆ จะได้ไม่ไปรบกวน การที่ไม่ได้เจอตัวเป็นๆกันมานาน ทำให้มีเรื่องทีพูดคุยกันเยอะจนเวลาล่วงเลยไปจนดึกถึงได้แยกย้าย ต่างคนต่างไปนอน
อาจจะเป็นเพราะแปลกที่ ทำให้ผมนอนไม่ค่อยหลับสนิทเท่าไหร่ โดยเฉพาะช่วงที่ฝนตกหนักๆ ปลุกโสตประสาททุกอย่างทำให้นอนตาค้าง คิดอะไรไปเรื่อยไปจนเคลิ้มๆเหมือนจะหลับแต่นาฬิกาปลุกเจ้ากรรมดันส่งเสียงเตือนตอนตีห้า ซึ่งเป็นเวลาที่ผมต้องรีโมทไปจัดรายการวิทยุชุมชน
เนื่องจากเมื่อคืนลืมถามเรื่องการใช้ wifi ของที่พักทำให้ตอนเช้าผมไม่สามารถรีโมทไปจัดรายการได้ เลยลุกออกมาเดินชมบรรยากาศริมสระบัว จะว่าไปผมไม่เคยได้นั่งชมบัวในบึงนานๆแบบนี้มาก่อน โดยเฉพาะในบรรยากาศที่เงียบสงบ เช้าๆ แบบนี้ ทำให้สมองว่างได้พินิจพิเคราะห์ความงามของบัวตูมที่กำลังบาน และบัวบานบางดอกทีกำลังโรย..
บัวพ้นน้ำ ชูช่อไสว..
บัวปริ่มๆจะพ้นน้ำ..
บัวใต้น้ำ..
และบัวที่อยู่ใต้ตม..
เปรียบคนเราที่อยู่บนโลกกลมๆใบนี้ ที่มีทั้ง 4 ประเภท
:: แนะนำสมาชิกใหม่ของเครือข่ายพัฒนาระบบสารสนเทศโรงพยาบาลชุมชน ปี 2555 ::
เดอะ จิมมี่ รีสอร์ท เป็นที่พักตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 30ไร่ ซึ่งเจ้าของเป็นเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยแห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร และเพิ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ประมาณต้นปี 2555 ที่ผ่านมา
บรรยากาศบริเวณ ที่พักค่อนข้างสบายๆ ภายใต้ร่มเงาของธรรมชาติ ค่อนข้างเงียบสงบดีครับ มองผ่านไปในความมืดเห็นแสงหิ่งห้อยระยิบระยับ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดว่าคงจะมีแหล่งน้ำ และสิ่งแวดล้อมที่ดีอยู่บริเวณนี้
ปุ๊ หนองวัวซอ,อู๋ อิ๊ด จาก รพ.เอรวัณ ,นงจาก รพ.หัวตะพาน และน้องใหม่จาก รพ.ป่าบอน น้องสุที่บินมาไกล ซึ่งได้เดินทางมาถึงก่อนหน้าแล้ว ออกมาต้อนรับ เลยถือโอกาสนั่งพูดคุยกันอยู่ข้างริมสระบัว จ๋องเองก็ยังเข้าบ้านไม่ได้เพราะแม่บ้านจะขึ้นเวรดึก คงต้องรอเวลาให้ถึงห้าทุ่มกว่าๆ จะได้ไม่ไปรบกวน การที่ไม่ได้เจอตัวเป็นๆกันมานาน ทำให้มีเรื่องทีพูดคุยกันเยอะจนเวลาล่วงเลยไปจนดึกถึงได้แยกย้าย ต่างคนต่างไปนอน
อาจจะเป็นเพราะแปลกที่ ทำให้ผมนอนไม่ค่อยหลับสนิทเท่าไหร่ โดยเฉพาะช่วงที่ฝนตกหนักๆ ปลุกโสตประสาททุกอย่างทำให้นอนตาค้าง คิดอะไรไปเรื่อยไปจนเคลิ้มๆเหมือนจะหลับแต่นาฬิกาปลุกเจ้ากรรมดันส่งเสียงเตือนตอนตีห้า ซึ่งเป็นเวลาที่ผมต้องรีโมทไปจัดรายการวิทยุชุมชน
เนื่องจากเมื่อคืนลืมถามเรื่องการใช้ wifi ของที่พักทำให้ตอนเช้าผมไม่สามารถรีโมทไปจัดรายการได้ เลยลุกออกมาเดินชมบรรยากาศริมสระบัว จะว่าไปผมไม่เคยได้นั่งชมบัวในบึงนานๆแบบนี้มาก่อน โดยเฉพาะในบรรยากาศที่เงียบสงบ เช้าๆ แบบนี้ ทำให้สมองว่างได้พินิจพิเคราะห์ความงามของบัวตูมที่กำลังบาน และบัวบานบางดอกทีกำลังโรย..
บัวพ้นน้ำ ชูช่อไสว..
บัวปริ่มๆจะพ้นน้ำ..
บัวใต้น้ำ..
และบัวที่อยู่ใต้ตม..
เปรียบคนเราที่อยู่บนโลกกลมๆใบนี้ ที่มีทั้ง 4 ประเภท
แสงสีทอง เริ่มจับที่ตรงขอบฟ้า เผยให้เห็นความงามของธรรมชาติให้แลเห็นได้อย่างเต็มตา สูดกลิ่นหอมของไอดิน ได้ยินเสียงนกร้องบรรเลงเพลงตามธรรมชาติ สัมผัสทัศนียภาพความงดงาม ณ ที่แห่งนี้ เวลาเจ้าเอย จะเร่งรีบไปใย..
ทางรีสอร์ทมีมื้อเช้าแบบเบาๆให้ทีมงานรองท้องกัน เสิร์ฟกันด้วยกาแฟหอมกรุ่น ข้าวต้มหมูใส่เห็ดหอม พร้อมผลไม้เป็นของตบท้ายรายการ หลังจากที่อิ่มหนำสำราญท้องจึงเริ่มทยอยกันออกเดินทางไปที่โรงพยาบาลวานรนิวาส ซึ่งวันนี้จะมีทีมตามมาสมทบกันอีกหลายคนจาก รพ.อากาศอำนวย ,รพ.เจริญศิลป์ ,รพ.พระอาจารย์ฝั่นฯ และ รพร.สว่างแดนดิน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ส่วนทีมที่เดินทางมาไกลๆ มี รพ.แวงใหญ่ ,รพ.อุบลรัตน์ และ รพร.บ้านดุง
เนื้อหาสาระในวันนี้มีเรื่องการศึกษาดูระบบงาน ของ รพ.วานรนิวาส และสนทนาแลกเปลี่ยนแนวทางในการพัฒนาระบบสารสนเทศของโรงพยาบาลกันในช่วงบ่าย..
รพ.แวงใหญ่ เข้าร่วมประชุมเป็นปีที่ 2 แต่ว่าปีนี้ทีมงานมาแรง จึงไม่ได้ส่งเฉพาะ Admin มาเข้าร่วมประชุมเท่านั้น ยังมีประธานกรรมการสารสนเทศซึ่งเป็นนายแพทย์ มาร่วมประชุมและดูงาน นอกจากนี้ยังมีหัวหน้างานที่ร่วมเดินทางมาด้วยกันอีก 5 คน
น้องสุ Admin หญิงจากแดนใต้ รพ.ป่าบอน
น้องสุ เข้าร่วมร่วมประชุมเครือข่ายแบบบังเอิญ และบังคับ(แต่เต็มใจ) เนื่องจากพี่นรินทร์ ซึ่งเป็นหัวหน้างานเคยมาร่วมประชุมกับทางเครือข่ายในการอบรมเมื่อปีที่แล้ว และอยากให้น้องมาลองสัมผัสบรรยากาศของทีมเครือข่ายภาคอีสาน จึงสั่งให้บินตรงมาลงที่อุดร ก่อนที่จะให้ อิ๊ด Admin รพ.เอราวัณช่วยรับช่วงดูแลต่อ
อุ้ม ณ แวงใหญ่ Admin รพ.แวงใหญ่
อุ้ม หัวหอกด้านไอทีคนสำคัญของ รพ.แวงใหญ่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแรกของเครือข่ายที่ขึ้นระบบผ่านการเรียนการสอนแบบ online ตอนนี้ได้ข่าวว่าผลงาน
เข้าตาทางทีมจังหวัด และได้ร่วมเป็นคณะกรรมการพัฒนาระบบไอทีของ ICT สสจ.ขอนแก่น
เข้าตาทางทีมจังหวัด และได้ร่วมเป็นคณะกรรมการพัฒนาระบบไอทีของ ICT สสจ.ขอนแก่น
เอ๋น้อย Admin + ผู้สื่อข่าวอิสระ จาก รพ.เลย
หนุ่มร่างน้อยที่คอยสะพายกล้องถ่ายภาพ ความสามารถด้านหนึ่งคือช่างภาพฝีมือดี แต่งานประจำคือ ผู้ดูแลระบบ networkของโรงพยาบาลเลย งานนี้เอ๋น้อย เป็นหัวหน้าทีมนำน้องๆ ทีมงานมาร่วมประชุมเครือข่าย โรงพยาบาลเลยกำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นระบบ ซึ่งเป็นงานใหญ่ และยาก แต่ทีมงานทุกคนไม่ปิดโอกาสตัวเอง ขยันที่จะเรียนรู้ทุกเรื่องทุกอย่าง และมาร่วมเรียนรู้จากการทำงานของโรงพยาบาลเล็กๆ
จอย Admin หญิง ดาวรุ่งน้องใหม่ รพ.เลย
การก้าวเข้ามาทำงานในตำแหน่ง Admin ของโรงพยาบาลเลย ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทั่วไป ฝีไม้ลายมือของสาวน้อยหน้าใสคนนี้ คงไม่ธรรมดา แม้ว่างานจะเป็นมือใหม่กับงานของโรงพยาบาล แต่อาศัยลูกขยันและเรียนรู้ได้เร็ว คงต้องจับตาดูผลงานกันต่อไป ว่าน้องจอยจะช่วยพาทีมโรงพยาบาลเลยขึ้นระบบแบบหมูในอวย หรือจะเป็นหมูเขี้ยวตัน
ปาล์ม Admin ดาวรุ่งน้องใหม่ รพ.เลย
ถ้าถามว่าใครพูดน้อยที่สุดในการประชุม ผมว่าคงเป็นหนุ่มหน้าใสคนนี้นี่แหละ ปาล์มเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลเลยพร้อมกับจอย ด้วยความเป็นคนพูดน้อย ชอบนั่งฟังเงียบๆ คนเดียวแบบป๋าเบิร์ด แต่ประกายภายในดวงตาของหนุ่มคนนี้มีแววว่า น่าจะมีอนาคตไกล (ถ้ามีค่ารถ)
แบงค์ Admin รพ.อุบลรัตน์
ตำแหน่งที่เขาจ้างมาทำงาน คือ เวชสถิต และพนักงานเอนกประสงค์ สาวน้อย หน้าทะเล้น ที่มีชื่อเล่นว่า แบงค์ เป็นทีมงานเครือข่ายล่าสุด ที่มาเร็ว แรง และแซงทางโค้งรุ่นพี่ไปหลายโรงพยาบาล แม้ว่างานดูแลระบบสารสนเทศโรงพยาบาลเป็นงานใหม่ที่ยังไม่เชี่ยวชาญ จึงแบกความกดดันไว้เต็มสองบ่า แต่อาศัยลูกขยัน และถามทุกอย่างที่ไม่รู้.. ต้องติดตามดูน้องเวชตัวน้อยคนนี้ว่าจะพาทีมอุบลรัตน์ฝ่าฟันด่านหินๆ ของเรากันไปได้แค่ไหน
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น