วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รักเลยจัง..ตอนที่่ 16

17-18 พฤษภาคม 2555 อบรมระบบงาน IPD
โรงพยาบาลเลย เวลา 13.00-16.00 น.

เดิมทีงาน IPD มีกำหนดการฝึกอบรม 3 รุ่นด้วยกันแต่เนื่องจากผมติดประชุมกรรมการบริหาร จึงลดจำนวนวันอบรมเหลือเพียง 2 วัน ทำให้ห้องฝึกอบรมในช่วงนี้ดูคึกคักเป็นพิเศษ ที่ผ่านมาผมใช้การสอนผ่าน team viewer ซึ่งสิ่งที่ผมเห็นเป็นเพียงหน้าจอ กับภาพจากมุมกล้องของเวปแคมเท่านั้น ส่วนภาพบรรยากาศอื่นๆ ภายในห้องประชุมต้องติดตามดูจากที่ทีม Admin โพสต์ผ่าน FB ของกลุ่ม  HOSxP โรงพยาบาลเลย

เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ ในส่วนของระบบงานผู้ป่วยใน ยังมีประเด็นของภาระงานที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่หนักหนาสาหัสกว่าผู้ป่วยที่มาตรวจรักษาโรคทั่วไปที่ OPD และยังมีเรื่องของเอกสารจำนวนมาก ทำให้หลายๆโรงพยาบาลแม้กระทั่งที่ด่านซ้ายเอง ก็ยังหาจุดที่ลงตัวไม่ได้ ผมเคยลองไปดูขั้นตอนการทำงานและสอบถามพยาบาลว่าทำไมถึงต้องทำแบบนั้น แบบนี้ หรือไม่ทำได้ไหม๊ เช่น การโทรศัพท์ส่ง case ก่อนที่จะส่งตัวผู้ป่วยเข้าไปใน ward  ซึ่งปกติพยาบาล OPD จะโทรศัพท์ไปบอกและคนที่รับข้อมูลก็จะเขียนบันทึกรับข้อมูลผู้ป่วยลงในกระดาษใบเล็กๆ ที่เตรียมไว้สำหรับจดบันทึก หลังจากรับตัวคนไข้แล้วข้อมูลชุดนี้ก็แทบจะไม่ได้ถูกใช้ไปทำอะไรต่ออีก ผมเสนอให้พิมพ์ใส่เข้ามาในข้อมูลการ admit หรือพิมพ์ใส่ Noteแทนได้หรือไม่ เพราะสามารถเปิดดูได้เลยและได้ข้อมูลที่ชัดเจนกว่าการรับแจ้งทางโทรศัพท์อย่างเดียวและไม่ต้องมาจดคำสั่งกันอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าคงยังไม่เข้าตาคนทำงานครับ เพราะส่วนใหญ่มักพร้อมใจกันบอกว่าไม่ได้หร๊อกกก...

หรืออย่างเรื่องเอกสาร ซึ่งคนไข้หนึ่งคนต้องมีเอกสารบันทึกกันหลายสิบหน้า(ผมทึ่งคนที่คิดแบบฟอร์มต่างขึ้นมาจริงๆนะครับ) สิ่งที่ดูจะได้ประโยชน์มากในปัจจุบัน คือ การใช้โปรแกรมพิมพ์สติกเกอร์ติดแปะลงบนเอกสาร ทั้งๆที่น่าจะออกแบบฟอร์มและสั่งพิมพ์ผ่าน HOSxP ซึ่งช่วยลดพื่้นที่การเก็บแบบฟอร์มต่างๆ ที่มีอยู่มากมายให้เหลือเพียงพื้นที่เก็บกระดาษเปล่าเพียงอย่างเดียว คำตอบที่ได้รับตามมา คือ ยุ่งยาก เสียเวลา งานเยอะ ฯลฯ บางโรงพยาบาลใช้เต็มระบบขึ้นมาอีกหน่อย คือ สั่ง Lab,xray,ลงหัตถการด้วย แต่ก็ยังดูเหมือนว่าคอมพิวเตอร์เนี่ย มันช่างเพิ่มภาระงานให้ฉันเสียจริงๆ
ผมไม่รู้ว่าปัญหาส่วนหนึ่งมาจาก ปริมาณเครื่องคอมกับพยาบาลในหอผู้ป่วยในที่ไม่ค่อยสัมพันธ์กันด้วยหรือเปล่า เคยคิดว่าถ้ามีคอมพิวเตอร์ให้เพียงพอกับพยาบาลต่อเวร เช่น ประมาณ 4-5 เครื่อง/ ward จะช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง(ไหม๊นะ) เพราะถ้าปริมาณงานที่มากและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีจำกัด จะให้มารอเพื่อคีย์ข้อมูลคงทำงานไม่ทัน  แต่ถึงจะมีเครื่องพอก็ยังอาจจะติดปัญหาเรื่องการ "จิ้มดีด" ที่ดูเหมือนว่าจะยังเป็นก้างขวางการทำงานชิ้นใหญ่สำหรับการนำมาใช้ในการลงบันทึกทางการพยาบาล

ทุกครั้งที่สอนการใช้ระบบงานต่างๆ ผมคิดว่าจะมีใครบ้างไหม๊น้าที่ฟังแล้ว ปิ๊ง! ไอเดียบรรเจิด จนกระทั่งนำไปสู่ การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานแบบใหม่ๆดูบ้าง  เพราะส่วนใหญ่ที่ผมได้ยิน คือ ไม่ได้,คนไม่พอ,งานที่ทำเยอะอยู่แล้ว ,บริบทของโรงพยาบาลเราไม่เหมือนของเขา ฯลฯ แล้วทุกอย่างก็ยังถูกอนุรักษ์ ให้ทำกันเหมือนเดิมแบบรุ่นต่อรุ่น

น่าแปลกดีนะครับ พยาบาลส่วนใหญ่บ่นเรื่องงานเอกสาร แต่ก็ต้อง(ทน)ทำกันไปทุกวัน และดูเหมือนว่าด้วยภาระงานที่หนัก ทำให้จะหาเวลาเพื่อทบทวนงานเอกสาร ขั้นตอนการทำงานบางอย่างว่าควรจะปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงกันบ้างหรือเปล่า หรือเป็นเพราะว่าวิธีการที่ทำนั้นมันคุ้นเคยและดีอยู่แล้วจนไม่อยากที่จะทำอะไรใหม่ๆให้ยุ่งยาก ซึ่งหลายโรงพยาบาลที่เชิญผมไปช่วยดูระบบให้ปัญหาที่พบคล้ายๆกัน คือ จากงานเดิมที่เคยทำอยู่ 10 อย่าง การลงข้อมูลในคอมพิวเตอร์กลายเป็นงานที่ 11 อะไรที่เคยทำมาก็จะทำอย่างนั้น ถ้าหากหัวหน้ายังไม่ให้เลิกทำ.. เช่น ทะเบียน Admit ทะเบียน refer กลายเป็นงานซ้ำซ้อนที่บางครั้งก็ขำไม่ออกกัน คงต้องมาติดตามกันต่อครับว่าพี่ใหญ่อย่าง รพ.เลย  จะมีการปรับแนวทางในการทำงานเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปมากน้อยแค่ไหน

ที่น่าดีใจในการอบรมวันนี้ คือ มีทีมผู้ป่วยในและ เอ๋.. Admin ของโรงพยาบาลภูหลวงมาเข้าร่วมอบรมด้วย (เท่าที่รู้ตอนนี้มี 3 เอ๋ แล้วครับที่เป็น admin ของทีมจังหวัดเลย) ที่จริงถ้าใช้วิธีการสอนผ่าน internet แบบนี้ ไม่ต้องเดินทางไปสำหรับผมแล้วโคตรสบายเลยครับ เพราะอย่างน้อยการนั่งรถไป-กลับเมืองเลย ต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง  ค่าน้ำมันรถอีกประมาณ 500 บาท และผลที่ได้ไม่แตกต่างกันมาก สำหรับผมแล้วประหยัดช่วยชาติได้เยอะเลย

ทีม รพ.ภูหลวง

มีคนบอกผมว่า การเรียนรู้ คือ การ(กล้า)ก้าวออกจากพื้นที่ที่เคยชิน..


3 ความคิดเห็น:

  1. การเรียนรู้ไม่ได้อยู่กับที่เสมอไป เรียนรู้ที่จะก้าวไปเอากำลังใจจากคนอื่นๆที่สายงานเหมือนกันหัวอกเดียวกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
    ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ที่ถ่ายทอด ออกมาเป็นบทความที่ดีเยี่ยมเช่นนี้

    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  2. เหตุผลที่หนูพาคนของหนูมาเพราะ คนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ใหม่ที่เป็นคนบันทึกข้อมูลในward การจะให้ฟังสอนออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับadminกิ๊กก๊อกอย่างเอ๋ และเอ๋เองก็เรียน ผอ.และหัวหน้าwardไปแต่แรกแล้วว่ามันเป็นการสอนออนไลน์เพียงแต่...แต่ในที่นี้ต้องการให้เขามาเห็นว่า โลกกว้างเป็นยังไง คนHOSxPไปถึงไหนแล้ว ในระหว่างทางมาเอ๋ก็คุยๆconceptให้เขาฟัง (เพราะที่ รพ.ไม่ค่อยได้คุยกันนะ) และบอกว่าวิทยากรเป็นใคร วิทยากรสอนเอ๋ว่าไงบ้าง ตอนกลับมาก็ถามเขาว่าเป็นไง เขาบอกว่า ดีใจที่ได้มาเพราะเขาไม่ค่อยได้ไปไหน และเข้าใจแล้วว่าเขาต้องทำไง(เข้าใจมากขึ้น) บางเรื่องที่ไม่รู้ก็รู้เพิ่มขึ้น เอ๋ก็ดีใจที่ได้พาเขามาค่ะ

    ตอบลบ
  3. อิจฉา..จังหวัดเลยจังเลย..

    ตอบลบ